ในราวกลางปี 2554 รัฐบาลฮ่องกง มีนโยบายจะนำกฎหมายค่าจ้างขั้นต่ำ มาบังคับใช้กับผู้ใช้แรงงาน  ยกเว้นตำแหน่งผู้ช่วยแม่บ้านต่างชาติ ซึ่งมีการกำหนดค่าจ้างขั้นต่ำเป็นการเฉพาะตำแหน่งแล้ว
             ในการพิจารณาอัตราค่าจ้างขั้นต่ำดังกล่าว รัฐบาลแต่งตั้งคณะกรรมการกำหนดค่าจ้างขั้นต่ำ (Provisional Minimum Wage) พิจารณานำเสนออัตราค่าจ้างที่เหมาะสมต่อรัฐบาล ที่ผ่านมากลุ่มผู้ใช้แรงงาน และสหภาพแรงงาน มีการรวมตัวเพื่อเรียกร้องค่าจ้างขั้นต่ำ ชั่วโมงละ 33 เหรียญฮ่องกง ในขณะที่นายจ้างผู้ประกอบการ ไม่เห็นด้วย Mr.Lau Tat-pong ประธานสมาคมผู้ประกอบการธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง (Hong Kong Small and Medium Enterprises Association) ระบุว่า สมาคมมีความเห็นคัดค้านข้อเรียกร้องของผู้ใช้แรงงาน โดยเสนออัตราค่าจ้างขั้นต่ำชั่วโมงละ 23-25 เหรียญฮ่องกง ซึ่งนายจ้างสามารถจะดำเนินธุรกิจได้
              Mr.Matthew Cheung Kin-Chung รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และสวัสดิการ (Secretary for Labour and Welfare) กล่าวว่า คณะกรรมการกำหนดค่าจ้างขั้นต่ำ จะนำเสนออัตราค่าจ้างขั้นต่ำให้ผู้บริหารสูงสุดฮ่องกง พิจารณาในเดือนสิงหาคม ศกนี้ และคาดว่าจะประกาศใช้ได้ไม่เกินสิ้นเดือนมิถุนายน 2554 และกล่าวเพิ่มเติมว่า รัฐบาลจะกำหนดค่าจ้างขั้นต่ำ ในอัตราที่จะไม่ส่งผลกระทบให้ผู้ใช้แรงงานส่วนใหญ่ต้องตกงาน 
              นอกจากนั้น Mr.Matthew Cheung Kin-Chung  ยังกล่าวเตือนนายจ้างผู้ประกอบการ ว่า หากรัฐบาลประกาศใช้กฎหมายค่าจ้างขั้นต่ำแล้ว นายจ้างก็ไม่ควรปฏิบัติเกินขอบเขต และไม่ควรแก้ไขสัญญาจ้างก่อนที่จะมีการกำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ นายจ้างที่ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย จะได้รับโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 350,000 เหรียญฮ่องกง
              สำหรับตัวเลขการว่างงานของฮ่องกง ในรอบ 3 เดือนที่ผ่านมา ยังคงอยู่ในอัตราสูง และคงที่ โดยรัฐบาลประกาศอัตราการว่างงาน ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2554 อยู่ที่ร้อยละ 4.6 ขณะเดียวกัน Daiwa Capital Markets เปิดเผยว่า อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของฮ่องกง อาจชะลอตัว หลังจากที่ได้มีการขยายตัวอย่างรวดเร็วในช่วงไตรมาสแรกในรอบ 4 ปี นอกจากนั้น ผู้บริโภคมีความสามารถในการจับจ่ายเพิ่มมากขึ้น ซึ่งอาจมีน้ำหนักต่อการจ้างงานในอนาคต เมื่อรัฐบาลประกาศใช้กฎหมายค่าจ้างขั้นต่ำ และทำให้โอกาสในการสร้างงาน  เป็นไปได้ง่ายขึ้นด้วย
               ในส่วนผู้ประกอบการ คาดว่าธุรกิจส่วนใหญ่จะได้รับผลกกระทบ เมื่อรัฐบาลประกาศใช้กฎหมายดังกล่าว ได้แก่ ภัตตาคาร ร้านอาหาร ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์  การรักษาความปลอดภัย และการทำความสะอาด โดยเฉพาะกลุ่ม Dairy Farm International ผู้บริหารกิจการ Welcome ซุบเปอร์มาร์เก็ต อาจต้องเผชิญกับต้นทุนที่สูงขึ้นด้วย