Skip to main content

หน้าหลัก

ข้อมูล ด้านแรงงาน

ข้อมูลด้านแรงงาน

ฮ่องกง

กำลังแรงงาน  ณ มกราคม 2568

   

ประชากร

7,490,000

กำลังแรงงาน (‘000)   (11/2019-1/2020

3, 831.5  

ผู้มีงานทำ (‘000)   

3, 711.8 

ผู้ว่างงาน (‘000)   

119.7  

Underemployment rate (%)   

1.1 

     

 

https://www.censtatd.gov.hk/hkstat/sub/so200.jsp

 

ข้อมูลที่เกี่ยวข้องด้านแรงงาน

                      กฎหมายและมาตรฐานแรงงาน: รัฐบาลฮ่องกงปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ของลูกจ้างรวมถึงดูแลความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสุขภาพผ่านโครงการกฎหมายแรงงานที่ครอบคลุม, และใช้อนุสัญญาแรงงานระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้อง (ILCs) ตามที่ท้องถิ่นอนุญาต ซึ่งสิ้นปี 2561 รัฐบาลฮ่องกงได้มีอนุสัญญาจำนวน 31 ฉบับ (ILCs) เมื่อเทียบกับประเทศใกล้เคียงที่มีการพัฒนาทางเศรษฐกิจรวมถึงภูมิหลังทางสังคมและวัฒนธรรมที่คล้ายคลึงกัน

                     สภาพการทำงาน : กฎหมายการจ้างงานจัดทำกรอบสำหรับรหัสการจ้างงานที่ครอบคลุม มีการควบคุมการจ่ายค่าจ้าง การยกเลิกสัญญาจ้างงาน และการดำเนินงานของหน่วยงานการจ้างงาน ฯลฯ กฎหมายกำหนดให้ลูกจ้างได้รับสิทธิประโยชน์และความคุ้มครองต่าง ๆ เช่นวันหยุดพักผ่อนวันหยุดตามกฎหมายโดยได้รับค่าจ้าง การป้องกันการคลอดบุตร และการคุ้มครองการจ้างงานนอกจากนี้ กฎหมายยังให้ความคุ้มครองแก่ลูกจ้างที่เข้าร่วมในกิจกรรมของสหภาพแรงงาน การจ่ายเงินชดเชยให้กับลูกจ้างที่จ่ายเงินซ้ำซ้อนและการจ่ายเงินระยะยาวแก่ลูกจ้างที่ทำงานนานซึ่งถูกไล่ออกหรือลาออกเนื่องจากสุขภาพไม่ดีหรืออายุมาก เป็นต้น ลูกจ้างที่มีการค้างจ่ายค่าจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า การไม่ได้รับเงินชดเชยสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปีและ / หรือวันหยุดตามกฎหมายจากนายจ้างที่มีหนี้สินมาก อาจยื่นขอเงินชดเชยจากการคุ้มครองค่าจ้างของกองทุนล้มละลายได้ ซึ่งกองทุนได้รับเงินทุนส่วนใหญ่โดยการจัดเก็บประจำปีจากการลงทะเบียนใบรับรองทางธุรกิจ

                     กฎการจ้างงานของเด็ก ห้ามจ้างเด็กอายุต่ำกว่า 13 ปีทำงานในทุกภาคเศรษฐกิจ ภายใต้ข้อจำกัด การคุ้มครองบางข้อ เด็กอายุ 13 และ 14 ปี อาจทำงานที่ไม่ใช่ภาคอุตสาหกรรม

                     กฏระเบียบการจ้างงานของคนหนุ่มสาว (ภาคอุตสาหกรรม) ควบคุมชั่วโมงการทำงานและเงื่อนไขการจ้างงานของคนหนุ่มสาวอายุ 15 ถึง 17 ปี ในกิจการอุตสาหกรรม เช่น คนหนุ่มสาวไม่ได้รับอนุญาตให้ทำงานมากกว่า 8 ชั่วโมงต่อวันและ 48 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ และห้ามทำงานล่วงเวลา

                    การตรวจด้านแรงงาน ผู้ตรวจด้านแรงงานของกรมแรงงานจะตรวจสอบสถานที่ทำงานเพื่อให้มีการปฏิบัติตามกฎหมายแรงงานต่างๆเพื่อปกป้องสิทธิและประโยชน์ของแรงงานในท้องถิ่นและแรงงานนำเข้า

                    สหภาพทางการค้าและความสัมพันธ์ทางอุตสาหกรรม: คนฮ่องกงมีสิทธิและเสรีภาพในการจัดตั้งและเข้าร่วมสหภาพการค้า ช่วงท้ายปี 2018 มีสหภาพการค้าจำนวน 908 แห่งที่จดทะเบียนภายใต้กฎหมายสหภาพทางการค้า ประกอบด้วยสหภาพลูกจ้าง 846 แห่ง สมาคมนายจ้าง 13 แห่งองค์กรรวมระหว่างนายจ้างและลูกจ้าง 38 แห่ง และสหภาพทางการค้า 11 แห่ง

                     การตัดสินข้อร้องเรียน: การตัดสินข้อพิพาทระหว่างนายจ้างและลูกจ้างที่เกิดในฮ่องกง มีขั้นตอนที่รวดเร็ว ค่าใช้จ่ายน้อยและไม่เป็นทางการ คณะกรรมการย่อยพิจารณาค่าสินไหมทดแทนการจ้างงานของกรมแรงงานวินิจฉัยการเรียกร้องสิทธิภายใต้กฎหมายว่าด้วยการจ้างงาน กฏหมายว่าด้วยค่าแรงขั้นต่ำและสัญญาจ้างงานส่วนบุคคล  การร้องเรียนแต่ละครั้งที่คณะกรรมการพิจารณาต้องเกี่ยวข้องกับผู้ร้องเรียนไม่เกิน 10 รายสำหรับจำนวนเงินไม่เกิน $ 8,000 ต่อผู้ร้อง การร้องเรียนที่ไม่ตรงตามเกณฑ์ดังกล่าว จะเป็นหน้าที่ของศาลแรงงาน ซึ่งอยู่ภายใต้ศาลยุติธรรมโดยจะจัดการกับการร้องเรียนที่เกิดขึ้นเนื่องจากการละเมิดสัญญาการจ้างงานและข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องของกฎหมายการจ้างงาน กฎหมายค่าจ้างขั้นต่ำหรือกฎหมายเกี่ยวกับการฝึกงาน

                     ความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงาน: มีการตรวจสอบและการบังคับใช้กฏหมาย ให้การศึกษาและฝึกอบรม ประชาสัมพันธ์และส่งเสริม ตลอดจนความร่วมมือกับผู้มีส่วนได้เสียที่เกี่ยวข้อง  หน่วยความปลอดภัย อาชีวอนามัยของกรมแรงงาน โดยพยายามลดอุบัติเหตุจากการทำงานและป้องกันโรคจากการทำงานและโรคที่เกี่ยวข้องกับการทำงานเพื่อปกป้องความปลอดภัยและสุขภาพของลูกจ้างในที่ทำงาน ภายใต้กฎหมายความปลอดภัย อาชีวอนามัยและกฎหมายโรงงานและอุตสาหกรรม มีการจัดทำข้อบังคับจำนวน 32 ชุดเพื่อครอบคลุมกิจกรรมที่อันตรายต่าง ๆ ในโรงงาน อาคารและวิศวกรรม

                      บริการด้านการจ้างงาน: กรมแรงงานให้บริการจัดหางานที่ครอบคลุมและไม่เสียค่าใช้จ่ายแก่ผู้หางานและนายจ้างผ่านศูนย์จัดหางาน 13 แห่ง มีศูนย์จัดหางาน 3 แห่งสำหรับอุตสาหกรรม การจัดเลี้ยง  ขายปลีกและก่อสร้าง มีศูนย์ประมวลผลตำแหน่งงานว่าง, ศูนย์บริการการจ้างงานทางโทรศัพท์, เว็บไซต์บริการจัดหางานแบบโต้ตอบ (iES) (www.jobs.gov.hk) และแอปพลิเคชั่นมือถือ รวมถึงเทอร์มินัลการค้นหาตำแหน่งว่างที่ตั้งอยู่ในเว็บไซต์ต่างๆทั่วทั้งภูมิภาค ผู้หางานอาจใช้สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เช่น หน่วยค้นหาตำแหน่งงานว่าง โทรศัพท์ เครื่องแฟกซ์และคอมพิวเตอร์ใน Job Centre เพื่อให้กระบวนการหางานเสร็จสมบูรณ์

                       ความช่วยเหลือด้านการจ้างงานสำหรับผู้พิการ:  หน่วยคัดเลือกตำแหน่งของกรมแรงงานให้บริการช่วยเหลือด้านการจ้างงานพิเศษสำหรับผู้พิการโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายสำหรับการจ้างงานแบบเปิดรวมถึงผู้ที่มีความบกพร่องทางสายตา, การได้ยินผิดปกติ, ความบกพร่องทางร่างกาย, การเจ็บป่วยเรื้อรัง, ความผิดปกติทางจิต, ความผิดปกติของผู้ที่มีอาการของออทิสติก, ความบกพร่องทางสติปัญญา, ปัญหาการเรียนรู้เฉพาะและความผิดปกติ สมาธิสั้น

                      ค่าแรง: กฎหมายว่าด้วยค่าแรงขั้นต่ำได้จัดตั้งระบบค่าแรงขั้นต่ำ ซึ่งมีพื้นที่ปกป้องค่าจ้างของลูกจ้างระดับรากหญ้าจากค่าแรงที่ต่ำเกินไปโดยไม่สร้างความเสียหายต่อตลาดแรงงานของฮ่องกง มีความยืดหยุ่น คำนึงถึงการเติบโตทางเศรษฐกิจและความสามารถในการแข่งขันหรือก่อให้เกิดการสูญเสียที่สำคัญในงานที่มีรายได้น้อย อัตราค่าแรงขั้นต่ำตามกฎหมายได้เพิ่มขึ้นเป็น 37.5 เหรียญฮ่องกงต่อชั่วโมง ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2562 ในเดือนพฤษภาคม – มิถุนายน 2561 ค่าจ้างเฉลี่ยต่อเดือนของพนักงานในฮ่องกง (ไม่รวมพนักงานของรัฐบาลเช่นเดียวกับนักศึกษาฝึกงานนักศึกษาทำงานประสบการณ์ คนงานที่ได้รับการยกเว้นตามกฎหมายว่าด้วยค่าแรงขั้นต่ำ) อยู่ที่ $ 17,500 และเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.0 เทียบกับพฤษภาคม – มิถุนายน 2017

 

   (Labour Department Home Page address: http://www.labour.gov.hk)

ภายในปี 2571 ฮ่องกงจะขาดแคลนแรงงาน 180,000 คน คิดเป็น 260% ของปี 2566

การศึกษาวิจัยที่ดำเนินการในปี 2566 ได้สำรวจข้อมูลจากภาคธุรกิจ 17 ภาคส่วนหลัก และรวบรวมมุมมองจากนายจ้างในอุตสาหกรรมต่างๆ มากกว่า 1,000 ราย เพื่อวิเคราะห์ถึงอุปทานและอุปสงค์ของแรงงานฮ่องกงในอีก 5 ปีข้างหน้า

รัฐบาลคาดการณ์ว่า อนาคตข้างหน้าภายในปี 2571 หรืออีกประมาณ 4 ปีข้างหน้า แรงงานหน้าใหม่จะเพิ่มขึ้นถึง 3.56 ล้านคน แต่ความต้องการแรงงานของตลาดจะสูงกว่านั้น คือประมาณ 3.75 ล้านคน ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการขาดแคลนแรงงาน 180,000 คน โดยอิงจากสมมติฐานว่าเศรษฐกิจจะเติบโต 3.2% ในแต่ละปี ตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้น 260% เมื่อเทียบกับการขาดแคลนแรงงาน 50,000 ราย ในปี 2566

คริส ซัน ยุก-ฮาน (Chris Sun Yuk-han) รัฐมนตรีกระทรวงแรงงานและสวัสดิการ สะท้อนความเห็นว่า ประชากรสูงอายุเป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของฮ่องกง ประชากรวัยทำงานจะลดลง ในขณะที่อายุเฉลี่ยของแรงงานในภาคส่วนต่างๆ จะเพิ่มขึ้น 

ภายในปี พ.ศ. 2571 ผู้คนมากกว่า 2 ล้านคนหรือ 28% ของประชากรชาวฮ่องกง จะมีอายุ 65 ปีขึ้นไป เข้าเกณฑ์เป็นผู้สูงอายุ ส่วนประชากรวัยทำงานที่มีอายุระหว่าง 15-64 ปี จะมีจำนวน 4.6 ล้านคน คิดเป็น 63% ของประชากรทั้งประเทศ 

แม้จะขาดแคลนแรงงานมากขึ้น แต่ปัญญาประดิษฐ์อาจทดแทนได้ ?

นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่ส่งผลกระทบต่ออุปทานและอุปสงค์ของแรงงาน ได้แก่ การใช้ปัญญาประดิษฐ์และระบบอัตโนมัติ ระดับการศึกษาของแรงงาน การเติบโตและการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจในท้องถิ่น

รอย ชาน กว๊อกเฟย (Roy Chan Kwok-fai)  หัวหน้าหน่วยวิจัยของสำนักงานฯ เปิดเผยว่า คาดการณ์ว่าความต้องการแรงงานในอนาคตจะลดลง 10-20% เนื่องจากการใช้ปัญญาประดิษฐ์และระบบอัตโนมัติมาทดแทนแรงงานมนุษย์ 

ปัญหาการขาดแคลนแรงงานจำนวน 180,000 ราย ประกอบไปด้วย ช่างเทคนิคที่มีทักษะสูง, คนงานในอุตสาหกรรมบริการ, ผู้เชี่ยวชาญและผู้จัดการบางสายงาน, คนงานใช้แรงงานทั่วไป ขณะที่ประมาณ 1 ใน 3 ของแรงงานทั้งหมด หรือประมาณ 60,000 คน เป็นช่างเทคนิคที่มีทักษะเฉพาะทาง เช่น คนงานก่อสร้าง ช่างบันไดเลื่อน และช่างซ่อมบำรุงเครื่องบิน

อย่างไรก็ตาม นโยบายของทางการฮ่องกงในปีนี้ มีแผนดึงดูดคนงานจำนวน 10,000 คนที่มีอายุ 35 ปีหรือน้อยกว่า และไม่จำเป็นต้องมีวุฒิการศึกษา ให้เข้ามาในระบบตลาดแรงงานเป็นเวลาสามปี เพื่อช่วยอุดช่องว่างการขาดแคลนดังกล่าว

ซัน ยุก-ฮาน บอกอีกว่า รัฐบาลจะยังคงมีแผนนำเข้าบุคลากรต่างชาติที่มีพรสวรรค์และแรงงานเข้ามาเพิ่มด้วย พร้อมทั้งเรียกร้องให้นายจ้างพิจารณาแนวทางต่างๆ เพื่อเพิ่มผลผลิตและยกระดับทักษะของคนงาน การทบทวนกำลังคนในระยะกลางจะเกิดขึ้นในปี 2025

หลายฝ่ายชี้ นำเข้าแรงงานต่างชาติไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาที่ยั่งยืน 

ขณะที่ โจว ซิว ชุง (Chau Siu-chung) สมาชิกรัฐสภาภาคแรงงาน มองว่า แม้ว่าการนำเข้าแรงงานต่างชาติสำหรับอุตสาหกรรมเฉพาะทางบางประเภท ที่กำลังประสบปัญหาขาดแคลนแรงงานตอนนี้ อาจเป็นวิธีแก้ปัญหาอย่างหนึ่ง แต่รัฐบาลไม่ควรละเลยปัญหาเชิงโครงสร้างที่บีบให้แรงงานท้องถิ่นต้องออกจากงาน

“หากเงินเดือนยังคงต่ำ ชั่วโมงการทำงานยาวนาน และคนงานยังคงต้องเผชิญกับสภาพการทำงานที่แย่ คนงานจากต่างประเทศก็คงจะยากที่จะทำงานอยู่ที่นี่ได้เช่นกัน” สมาชิกรัฐสภาภาคแรงงานเตือน ไม่เพียงเท่านั้น เขายังเรียกร้องให้รัฐบาลสื่อสารอย่างใกล้ชิดกับสหภาพแรงงาน ในกรณีที่จะพิจารณาการนำเข้าแรงงานต่างชาติ เนื่องจากจะทำให้เจ้าหน้าที่เข้าใจกระบวนการแก้ปัยหาและเหตุผลเบื้องหลังวิกฤตการณ์ได้ดียิ่งขึ้น

“จะไม่ใช่เรื่องสมเหตุสมผลเลย หากรัฐบาลนำเข้าแรงงานโดยไม่คิดหน้าคิดหลัง เพื่อมาเติมเต็มตำแหน่งว่าง 180,000 ตำแหน่ง ที่สำคัญที่สุด เราไม่สามารถพึ่งพาคนนอกได้ในระยะยาว เราต้องคิดหาวิธีที่จะทำให้ภาคอุตสาหกรรมเหล่านี้น่าดึงดูดใจสำหรับแรงงานรุ่นหนุ่มสาวมากขึ้น” เขาบอก 

ไซมอน ลี ซิวโป (Simon Lee Siu-po) นักวิชาการด้านการเงิน สะท้อนมุมมองต่อประเด็นนี้ว่า ปัญหาขาดแคลนแรงงานไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในเมืองใหญ่ของฮ่องกงเท่านั้น แต่ยังเกิดกับเมืองเล็กพื้นที่รอบนอกด้วย ส่งผลให้แรงงานแต่ละเมืองต้องแข่งขันกันสูง และแรงงานท้องถิ่นอาจย้ายหนีออกไปเช่นกันหากพวกเขาพบโอกาสที่อื่นที่ดีกว่า

“จะดีที่สุดหากทางการช่วยให้แรงงานท้องถิ่นสามารถตั้งรกรากอยู่ในเมืองได้ เมื่อพวกเขาทำงานที่นี่มาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว เพื่อที่จะดึงแรงงานที่มีความสามารถระดับสูงไว้ในพื้นที่ และไม่คิดย้ายไปที่อื่น ปัญหาแรงงานสูงวัยที่ทยอยเกษียณออกไปเรื่อยๆ จากอุตสาหกรรมจนส่งผลให้องค์กรขาดแคลนแรงงานนั้น จะยังคงดำเนินต่อไปหากไม่มีการจูงใจให้บุคลากรหนุ่มสาวหน้าใหม่เข้ามาทดแทน” ลี ซิวโป อธิบาย

เขาเตือนอีกว่า ภาวะการขาดแคลนแรงงาน 180,000 คนที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตนั้น อาจคุกคามความสามารถในการแข่งขันของเมือง เนื่องจากธุรกิจต่างๆ ต้องแบกรับต้นทุนแรงงานที่สูงขึ้นต่อไป ซึ่งต้นทุนดังกล่าวจะถูกโอนไปยังผู้บริโภคอีกทอดหนึ่งด้วย ต่อไปชาวฮ่องกงอาจเจอสินค้าอุปโภคบริโภคที่ราคาแพงขึ้นเป็นเงาตามตัว

 

 


2910
TOP